Buttery World ที่ สยามพารากอน คือ นิทรรศการครั้งใหญ่ของ “น้องหมีเนย” ที่นำเสนอในธีมบ้านแสนอบอุ่น ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางสุดมหัศจรรย์ของสาวน้อยผู้คอยฮีลใจ และมอบความสุขให้ทุกคนอยู่เสมอ ภายในบ้าน 2 ชั้น ผู้ชมจะได้เพลิดเพลินกับการสำรวจแต่ละห้อง ที่อัดแน่นไปด้วยรายละเอียดการตกแต่ง รวมถึงลูกเล่นมากมาย ซึ่งสะท้อนเสน่ห์ของน้องเนยในแบบที่พวกเรารักได้อย่างกลมกล่อม
The Little Prince Universe – An Immersive Journey ที่ไอคอนสยาม คือ นิทรรศการแบบ immersive ที่หยิบเอาเนื้อเรื่องจาก “เจ้าชายน้อย” (The Little Prince) วรรณกรรมอันทรงคุณค่าระดับโลกของ Antoine de Saint-Exupéry นักเขียนและนักบินชาวฝรั่งเศส มาถ่ายทอดใหม่ด้วยภาพ และการนำเสนอเชิงประสบการณ์ที่จับต้องได้ ผ่านหลากหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะดิจิทัล, วิดีโอ, ประติมากรรมตัวละคร, installation ของฉากสำคัญ, รวมถึงการแสดงแสง สี เสียง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
DINOLAB BANGKOK 2025: Jurassic Domination ที่ไอคอนสยาม คือ นิทรรศการไดโนเสาร์แบบ interactive จาก INCEPTION ที่เคยจัดแสดงมาแล้วในไต้หวัน และจีน โดยเป็นการสร้างพื้นที่จำลองขนาดใหญ่ในธีมศูนย์วิจัยบรรพชีวินวิทยา ที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับการฟื้นฟู DNA และการคืนชีพไดโนเสาร์ ภายในแบ่งออกเป็นหลายโซน และมีกิจกรรมมากมาย ให้ผู้ชมได้ค่อย ๆ สำรวจ และสัมผัสกับเหล่าสิ่งมีชีวิตจากยุคดึกดำบรรพ์อย่างใกล้ชิด
Layers of Life นิทรรศการใหม่ที่ KICH gallery คือ นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ ธานิ (ธนิดา ปานบ้านแพ้ว) ที่ถ่ายทอดมุมมองเกี่ยวกับการใช้ชีวิตผ่านภาพวาดสีโปสเตอร์ ซึ่งเป็นเทคนิคที่เธอถนัด โดยเปรียบเป็นกระบวนการวาดภาพ กล่าวคือ การสเก็ตช์หมายถึง “อดีต” ที่แม้จะถูกลงสีทับ แต่ก็ไม่สามารถลบเลือนจนหายไป บางครั้งอาจเผยให้เห็นอย่างชัดเจนด้วยซ้ำ ขึ้นอยู่กับวิธีการลงสี ณ “ปัจจุบัน” และย่อมส่งผลต่อ “อนาคต” ของชิ้นงานเมื่อเสร็จสมบูรณ์อีกที การเทียบเคียงนี้ สะท้อนถึงความสำคัญของการใส่ใจในแต่ละขั้นตอน (ชีวิต) เพื่อให้ปลายทางสอดคล้องกับความคาดหวังที่สุด และลดสิ่งที่ต้องปกปิด หรือแก้ไขในภายหลัง ให้เหลือน้อยเท่าที่จะเป็นไปได้
Space & Time Cube+ พิพิธภัณฑ์โลกเสมือนจริง (Metaverse) ชื่อดังจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้มาเปิดตัว และพร้อมให้เข้าชมแล้ววันนี้ที่ ซีคอน บางแค หลังประสบความสำเร็จในหลายประเทศ ตัวพิพิธภัณฑ์เน้นการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะดิจิทัลแบบ immersive ที่นำเสนอผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยเฉพาะการฉายภาพ 3 มิติที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (ไม่ต้องพึ่งพาแว่นตา) เพื่อสอดแทรกแนวคิดว่าด้วย การเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ และเวลา (ในปัจจุบัน) ที่ส่งผลต่อประสบการณ์ และการรับรู้ของมนุษย์เกี่ยวกับความจริง
แนะนำ 14 พิพิธภัณฑ์น่าเที่ยวที่โตเกียว : โตเกียวเป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ชั้นนำเยอะ และหลากหลายเอามาก ๆ ไม่จำกัดแค่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และศิลปะทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพิพิธภัณฑ์เฉพาะทางอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพยนตร์ การ์ตูน หรือการแสดงพันธุ์สัตว์น้ำก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมาวาฬได้เคยแนะนำที่ไม่ควรพลาดไปบ้างแล้ว และคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องรวบรวมทั้งหมด + อัปเดตเพิ่มเติมไว้ในโพสต์เดียวสักที เพื่อให้ทุกคนสามารถไปตามเก็บกันได้อย่างสะดวก
Sometimes I Lost, Sometimes I Found ที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก คือ นิทรรศการเดี่ยวครั้งใหม่ของ Zito Hsu นำเสนอซีรีส์ผลงานภาพวาดสีอะคริลิกในโทนสีฟ้า (และอื่น ๆ) ที่ชวนผู้ชมร่วมตีความนิยามของการสูญเสีย และรำลึกถึงเรื่องราวสำคัญในอดีตอีกครั้ง ทั้งนี้ ศิลปินมุ่งสะท้อนว่า ถึงแม้บางสิ่งจะสูญหายไป และไม่มีทางกลับคืนมา แต่ความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งนั้นยังคงอยู่เสมอ มันจะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของเรา เปลี่ยนแปลงความคิดบางอย่าง และนำไปสู่การค้นพบใหม่ ๆ ซึ่งไม่แน่ว่า อาจคล้ายคลึงกับสิ่งที่เคยสูญเสียไปก็เป็นได้ โดยงานนี้ เป็นการสานต่อจากโปรเจ็กต์ Lost and Found LAB. ที่เคยจัดแสดงก่อนหน้ามาแล้ว (ที่เมืองไถหนาน, ไต้หวัน)
NAKED SNOW AQUARIUM คือ อีเวนต์ประจำฤดูหนาวปีล่าสุดของ Maxell Aqua Park Shinagawa อควาเรียมในร่มใจกลางกรุงโตเกียว ที่โดดเด่นเรื่องการผสานเทคโนโลยี แสง สี เสียง เข้ากับการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ โดยครั้งนี้ มุ่งนำเสนอเทคนิคดังกล่าวในธีมเสน่ห์แห่งฤดูหนาว สร้างบรรยากาศให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ภายในโดมคริสตัล และเกล็ดหิมะสุดตระการตา
Monet: The Late Waterscapes @The National Museum of Western Art, ญี่ปุ่น คือ นิทรรศการเนื่องในวาระครบรอบ 150 ปีของการจัดแสดงศิลปะแบบ Impressionism หรือ “ลัทธิประทับใจ” ครั้งแรกใน กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยครั้งนี้ มุ่งนำเสนอเส้นทาง และพัฒนาการทางศิลปะของ โคลด โมเนต์ (Claude Monet: 1840 – 1926) ในช่วงบั้นปลายชีวิต ผ่านการจัดแสดงผลงานจริงกว่า 50 ชิ้น ซึ่งยืมมาจาก Musée Marmottan Monet ตลอดจนพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ และเหล่านักสะสม ก่อนจะสมทบด้วย คอลเลกชันของทาง The National Museum of Western Art เอง
Ryuichi Sakamoto | seeing Sound, hearing Time @Museum of Contemporary Art Tokyo คือ นิทรรศการครั้งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึง Ryuichi Sakamoto (ริวอิจิ ซากาโมโตะ: 1952–2023) ศิลปินผู้ทรงอิทธิพล ในฐานะนักดนตรี นักแต่งเพลง และนักแสดง ผู้เคยคว้ารางวัลระดับโลกจากผลงานดนตรีประกอบภาพยนตร์ เช่น Merry Christmas, Mr. Lawrence (1983) และ The Last Emperor (1987) โดยครั้งนี้ มุ่งถ่ายทอดแนวคิดที่เขาฝากไว้ก่อนเสียชีวิต ผ่านการจัดแสดง sound installation อันโดดเด่น ทั้งผลงานสำคัญในอดีต และผลงานใหม่ที่ยังไม่เคยเผยแพร่ ภายใต้ธีม “เสียง และเวลา” ซึ่งเป็นหัวข้อที่ Sakamoto สนใจมาตลอด