5 Places to visit in small towns around OSAKA
5 ที่เที่ยวไม่ซ้ำใครในเมืองรองใกล้โอซาก้า
เสน่ห์ของเมืองรอง คือ บรรยากาศที่เป็นกันเอง และความเงียบสงบ ในแบบที่หาไม่ได้จากเมืองหลัก ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนที่ดูจอแจ และเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา ใครที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นมากกว่า 1 ครั้งแล้ว น่าจะคุ้นเคยกับตัวตนของมหานครในแบบที่วาฬว่ามาเป็นอย่างดี ดังนั้น เมืองรอง จึงค่อย ๆ เป็นตัวเลือกในการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งต่อไปที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ใครที่เต็มอิ่มแล้วกับความเจริญ และความพลุกพล่าน วาฬรับรองว่ารีวิวนี้ ตอบโจทย์สำหรับคุณได้อย่างแน่นอนครับ
ที่เที่ยวรอบ OSAKA ที่วาฬคัดสรรมาในวันนี้นั้น นอกจาก ความน่าเที่ยวในระดับท็อปแล้ว ยังสามารถเดินทางไปเองได้ อย่างสะดวกสบายอีกด้วย โดยครั้งนี้ วาฬจะมาแนะนำ “5 ที่เที่ยวไม่ซ้ำใครในเมืองรองใกล้โอซาก้า” ปลายทางยอดนิยมที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี สามารถบินตรงด้วย ✈️ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์จาก สนามบินดอนเมือง ไปลงที่ สนามบินนานาชาติคันไซ หรือ โอซาก้า (KIX) ได้เลยครับ (https://www.airasia.com/th/th)
สรุปรวม “5 ที่เที่ยวไม่ซ้ำใครในเมืองรองใกล้โอซาก้า” ของวาฬ มีดังต่อไปนี้ครับ
1. ย่านออนเซ็นสุดคลาสสิค @เมืองโทะโยะโอะกะ (Toyooka)
“คิโนะซะกิ ออนเซ็น” #KinosakiOnsen
2. หมู่บ้านแห่งชาวประมง @เมืองอิเนะ (Ine)
“อิเนะ โนะ ฟุนะยะ” #InenoFunaya
3. วิวที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น @เมืองมิยะสุ (Miyazu)
“อะมะโนะฮะชิดะเตะ” #Amanohashidate
4. เกาะศิลปะ & ฟักทองลายจุด @เมืองนะโอะชิมะ (Naoshima)
“นะโอะชิมะ” #Naoshima
5. สถานีรถไฟสายแมวเหมียว @เมืองคิโนะคะวะ (Kinokawa)
“สถานีคิชิ” #KishiStation
สำหรับ 5 ที่เที่ยวในครั้งนี้ ถือว่าหลากหลายสไตล์เอามาก ๆ ทุกที่ล้วนมีจุดเด่น และเป็นปลายทางในฝันของใครหลาย ๆ คน ซึ่งขอย้ำเลยว่า เดินทางสะดวกสุด ๆ อีกด้วย หากเริ่มต้นจาก โอซาก้า เป็นหลักนะครับ โดยแนะนำให้เดินทางด้วยรถไฟ และหากสนใจจะใช้ตั๋วแบบเหมา KANSAI WIDE AREA PASS ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ เพราะสามารถใช้บริการรถไฟชินคังเซนได้ และครอบคลุมถึงเมืองรองเหล่านี้มากที่สุดครับผม (รายละเอียดของ PASS ตามลิ้งค์นี้เลยครับ https://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/pass/kansai_wide/ )
1. Kinosaki Onsen, Toyooka Hyogo
คิโนะซะกิ ออนเซ็น, โทะโยะโอะกะ เฮียวโงะ
คิโนะซะกิ ออนเซ็น เป็นย่านออนเซ็นเล็ก ๆ ทางตอนเหนือ ของเมืองโทะโยะโอะกะ (Toyooka) จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในย่านออนเซ็นสไตล์คลาสสิค ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ภาพจำของที่นี่ คงหนีไม่พ้น ผู้คนสวมชุดยูกาตะ พร้อมถุงใส่เครื่องใช้ส่วนตัว เดินเข้าออกโรงอาบน้ำสาธารณะที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมืองถึง 7 แห่ง และ คลองที่ไหลผ่านใจกลางเมือง ซึ่งรายล้อมด้วยบ้านเรือนแบบย้อนยุค เหล่านี้ล้วนเป็น ส่วนผสมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์อย่างแท้จริงครับ
จากโอซาก้า ใช้เวลาราว ๆ 2 ชั่วโมง ด้วยรถไฟ ก็จะมาถึงที่ สถานี JR Kinosakionsen แล้วครับ จากสถานี เราสามารถเดินเท้าเที่ยวได้รอบเมืองเลย โดยเฉพาะระหว่างโรงอาบน้ำสาธารณะทั้ง 7 แห่ง และคลองแลนด์มาร์กของ คิโนะซะกิ ออนเซ็น หรือ จะเลือกเช่าจักรยาน ก็สะดวกไม่น้อยทีเดียวฮะ
ย่านออนเซ็นอันแสนโรแมนติกแห่งนี้ สามารถที่ยวได้ ทั้งหน้าร้อน และหนาว เลยครับ เหมาะมาก ๆ ที่จะมาพักค้างคืนในโรงแรมสไตล์เรียวกัง (โรงแรมแบบญี่ปุ่น) ซึ่งจะมี ชุดยูกาตะ และรองเท้า ไว้คอยให้บริการอยู่แล้วด้วย ทุกคนสามารถใส่ออกมาเดินเล่น หรือ เข้าไปใช้บริการออนเซ็น แทนชุดปกติได้เลย ไม่ต้องเขินนะครับ ใคร ๆ ก็ใส่กัน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่ไม่ควรพลาดเลยแหละ
?พิกัด: https://goo.gl/maps/YvFdB521mWp1aie58
?การเดินทาง:
จากสถานี Osaka นั่งรถไฟ Ltd. Express Kounotori for Kinosakionsen ลงที่สถานีปลายทาง Kinosaki Onsen ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที
2. Ine no Funaya, Ine Kyoto
หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ, อิเนะ เกียวโต
หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine Funaya) คือ กลุ่มของหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ ในเมืองชนบทอิเนะ ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของ คาบสมุทรทังโงะ (Tango Peninsula) ทางตอนเหนือของจังหวัดเกียวโต สามารถเดินทางมาได้หลายวิธีครับ โดยสะดวกที่สุด คือ นั่งรถไฟจาก สถานี JR Kyoto มาลงที่ สถานี Amanohashidate แล้วต่อรถบัสประจำทางจากป้ายหน้าสถานีมายังอิเนะได้เลย
ความพิเศษของที่นี่ อยู่ตรงลักษณะของบ้านเรือน ที่เรียกกันว่า “ฟุนะยะ” (Funaya) ซึ่งแปลว่า บ้านโรงจอดเรือ ที่ตั้งเรียงรายยาวตลอดริมอ่าว มักเป็นอาคาร 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็น โรงจอดเรือ ส่วนชั้นบนนั้น ใช้สำหรับพักอาศัย ปัจจุบันยังคงมีผู้อาศัยอยู่จริง ประกอบอาชีพประมงกันจริง และได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพแบบดั้งเดิม ไว้อย่างดีจากรัฐบาลญี่ปุ่น ภาพของ ฟุนะยะ, วิถีชีวิต และท้องทะเลที่อิเนะนั้น จึงเป็นส่วนผสมที่งดงามเกินกว่าคำบรรยายอย่างยิ่งครับ
การเดินทางเที่ยวภายในอิเนะนั้น ง่ายมาก ๆ ครับ จะเดินเท้าแบบชิลล์ ๆ ก็ได้ หรือ จะปั่นจักรยาน ที่มีให้บริการฟรี ตามจุดต่าง ๆ ก็ดีไม่น้อยเลย โดยเราสามารถขอแผนที่จุดคืนจักรยานได้จาก “ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอิเนะ” (Ine Information Centre) ใกล้กับป้ายรถบัสครับ นอกจากนี้ ยังมีบริการล่องเรือชมอ่าวอิเนะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที อีกด้วย จริง ๆ แล้ว มีเรือให้บริการหลายรูปแบบ แต่วาฬแนะนำให้ ไปที่ Ine Sightseeing Cruise ซึ่งเป็นท่าเรือหลัก จะสะดวกที่สุดครับผม (มีเรือออกทุก 30 นาทีเลย)
?พิกัด: https://goo.gl/maps/PGtcMccwS3mVNZuXA
?การเดินทางที่แนะนำมี 2 วิธี:
1. การเดินทางสะดวกที่สุดเริ่มต้นจากสถานี Kyoto นั่งรถไฟสาย HASHIDATE ไปลงสถานี Amanohashidate ใช้เวลา 2 ชั่วโมง หรือ จากสถานี Kyoto นั่งสาย Limited Express Kinosaki ลงสถานี Fukuchiyama แล้วเปลี่ยนรถไฟเป็นสาย Kyoto Tango Railway ไปลงสถานี Amanohashidate ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที แล้วต่อรถบัสจากหน้าสถานี Amanohashidate ไปลง Ine อีก 1 ชั่วโมง
(พาสที่แนะนำมี 2 อย่างคือ 1. Kansai Wide Area Pass ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2. JR Rail Pass ต้องจ่ายเพิ่มบางส่วน)
2. นั่งรถบัสจากสถานี JR Osaka ไปลงที่ Amanohashidate ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 40 นาที แล้วต่อรถบัสจากหน้าสถานี Amanohashidate ไปลง Ine อีก 1 ชั่วโมง
3. Amanohashidate, Miyazu Kyoto
อะมะโนะฮะชิดะเตะ, มิยาสุ เกียวโต
“อะมะโนะฮะชิดะเตะ” คือชื่อของ สันดอนทรายขนาดยาวกว่า 3 กิโลเมตร ที่พาดผ่านกลาง อ่าวมิยาสุ ด้วยภูมิประเทศอันแปลกตา และมีความสวยงามเป็นอย่างมาก ทำให้ “อะมะโนะฮะชิดะเตะ” ได้รับการยกย่องว่า เป็นวิวที่ สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น (อีก 2 แห่งคือ เสาโทริอิ (Otorii) ที่ เกาะมิยะจิมะ (Miyajima) และหมู่เกาะกิ่งสน (Pine Clad Islands) ที่ มัตสึชิมะ (Matsushima)) นั่นเองครับ
สามารถไปเที่ยวเองได้สบายมาก ด้วยรถไฟ จากสถานี JR Kyoto ไปลงที่ สถานี Amanohashidate นั่นเองครับ เมื่อถึงที่ สถานี Amanohashidate แล้ว ออกมา ก็จะเป็น ย่านชุมชนใกล้ ๆ กับ “อะมะโนะฮะชิดะเตะ” เลยครับ สำหรับ วิธีการเดินทางเที่ยวรอบ ๆ นั้น วาฬขอแนะนำให้ ปั่นจักรยาน (มีให้เช่าหลายร้าน) เพราะแต่ละสถานที่ อยู่ไม่ไกลจากกัน หรือ หากฟิตหน่อย ก็สามารถเดินเท้าเอาได้ด้วยซ้ำฮะ
กิจกรรมที่ห้ามพลาด ได้แก่ ขึ้นเคเบิลคาร์ หรือ แชร์ลิฟท์ ไปชมวิว “อะมะโนะฮะชิดะเตะ” จากทั้ง 2 ฟากฝั่ง (อะมะโนะฮะชิดะเตะ วิว แลนด์ ทางใต้ และคาสะมัสสึ พาร์ก ทางเหนือ), ปั่นจักรยานผ่านสันดอนทรายกลางทะเล ที่เต็มไปด้วยป่าสนอันร่มรื่น และปิดท้ายด้วย แวะช้อปของที่ระลึก & ชิมอาหารทะเล สไตล์สตรีทฟู้ดจากชุมชนทั้ง 2 ฝั่ง เท่านี้ก็ฟินเต็มที่แล้วฮะ เหมาะเป็น One Day Trip ในวันสบาย ๆ จริง ๆ ครับ
?พิกัด: https://goo.gl/maps/KkLrh9zWqPvxFtDe7
?การเดินทาง:
1. การเดินทางสะดวกที่สุดเริ่มต้นจากสถานี Kyoto นั่งรถไฟสาย HASHIDATE ไปลงสถานี Amanohashidate ใช้เวลา 2 ชั่วโมง หรือ จากสถานี Kyoto นั่งสาย Limited Express Kinosaki ลงสถานี Fukuchiyama แล้วเปลี่ยนรถไฟเป็นสาย Kyoto Tango Railway ไปลงสถานี Amanohashidate ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที
(พาสที่แนะนำมี 2 อย่างคือ 1. Kansai Wide Area Pass ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2. JR Rail Pass ต้องจ่ายเพิ่มบางส่วน)
2. นั่งรถบัสจากสถานี JR Osaka ไปลงที่ Amanohashidate ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 40 นาที
4. Art Island Naoshima, Naoshima Kagawa
เกาะศิลปะนะโอะชิมะ, นะโอะชิมะ คะงะวะ
“เกาะนะโอะชิมะ” ตั้งอยู่ใน ทะเลเซโตะใน (Seto Naikai) จังหวัดคะงะวะ (Kagawa) ภูมิภาคชิโกกุ (Shikoku) เป็นเกาะที่มีการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย จำนวนมาก และ หลากหลายรูปแบบ ปัจจุบันได้รับความสนใจในระดับโลกจากเหล่าคนรักศิลปะ เริ่มต้นด้วย โปรเจคพิพิธภัณฑ์ศิลปะบนพื้นที่เพียงบางส่วนของเกาะ ก่อนที่จะขยายตัว และกระจายไปยังชุมชนต่าง ๆ ทั่วทั้งเกาะ ในเวลาต่อมานั่นเอง
เนื่องจากบนเกาะนาโอะชิมะ มีเมืองขนาดเล็กตั้งอยู่ ทำให้ภายในนั้นพร้อมไปด้วย ร้านอาหาร ร้านค้า ห้องน้ำ ตู้ขายน้ำ และที่พักอย่างดี ไม่ต้องกังวลเรื่องความลำบากเลยครับ
วิธีการเดินทางไป นะโอะชิมะ ที่สะดวกที่สุด วาฬแนะนำให้เริ่มต้นจาก โอซาก้า แล้วใช้ชินคังเซน ไปลงที่สถานี Okayama (ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น) จากนั้นต่อด้วยรถไฟธรรมดา มีการเปลี่ยนสถานีอีกนิดหน่อย ไปจบที่ สถานี Uno แล้วจึงค่อยนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปที่เกาะครับผม ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเลย ยิ่งใครจะมาเที่ยวต่อแถบชิโกกุอยู่แล้ว ยิ่งสะดวกแลยครับ
ส่วนวิธีการเดินทางภายในเกาะนั้น นอกจากรถบัสประจำทางแล้ว วาฬแนะนำให้ปั่นจักรยาน ที่มีให้เช่าอยู่แถวท่าเรือครับผม โดยเฉพาะจักรยานไฟฟ้า จะช่วยทุ่นแรง เวลาปั่นขึ้นเนินเขาได้ดีมาก ๆ เลย จะมีแค่บางช่วง ซึ่งเป็นพื้นที่ของเบเนสเซ (Benesse) เท่านั้น ที่จะไม่อนุญาตให้ขี่จักรยานผ่านได้ ต้องจอดเอาไว้ด้านหน้าและเดินเท้าเข้าไป รายละเอียดเหล่านี้ รวมถึงแผนที่ของเกาะ ทางร้านเช่าจักรยานจะมีให้เราทั้งหมดครับ
สำหรับ สถานที่ท่องเที่ยว และผลงานศิลปะกลางแจ้ง ที่ไม่ควรพลาดนั้น หากไปถึงเกาะตั้งแต่เช้า เราสามารถเก็บทั้งหมดได้ ภายในวันเดียวเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ศิลปะต่าง ๆ (เสียค่าเข้าชม), กลุ่ม Art House Project ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งเกาะ (เสียค่าเข้าชม) หรือ ประติมากรรมฟักทองสีแดง และ ฟักทองสีเหลือง โดย ศิลปินลายจุด “ยะโยะอิ คุซะมะ” ผู้โด่งดัง นั่นเองครับ
?พิกัด: https://goo.gl/maps/Lp19WbPaPn1TQLEC7
?การเดินทาง:
1. เริ่มต้นจาก Shin Osaka นั่งชินคังเซนมาลงสถานี Okayama
2. จากสถานี Okayama นั่งรถไฟสาย Uno Line มาลงที่สถานี Uno แล้วเดินต่อไปยังท่าเรือ
3. นั่งเรือ Shikoku Kisen Ferry โดยเส้นทาง Uno – Naoshima สามารถลงได้ 2 ท่าเรือคือ Miyanoura หรือ Honmura (แล้วแต่ว่าเราจะเริ่มต้นเที่ยวจากฝั่งไหนก่อน)
**เช็ครายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> https://www.shikokukisen.com/en/instant/
5. Kishi Station, Kinokawa Wakayama
สถานีคิชิ, คิโนะคะวะ วะคะยะมะ
สถานีคิชิ เป็นสถานีปลายทางของ รถไฟสายคิชิงะวะ (Kishigawa Line) ซึ่งสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกจากสถานี JR Wakayama (หากมาจากโอซาก้า ต้องเปลี่ยนสายที่สถานีนี้) สถานีคิชิแห่งนี้ เป็นที่รู้จักกัน อย่างกว้างขวาง หลังการประกาศให้น้องแมว “ทะมะ” (Tama) เป็นนายสถานีหญิง แทนคนปกติ และกลายเป็นมาสคอตประจำสถานีคิชิ จวบจนถึงวันที่ ทะมะได้จากไปอย่างสงบ ใน พ.ศ. 2558 ด้วยอายุที่มากถึง 16 ปี
ตำแหน่งที่ว่างลง ได้มี “นิทะมะ” (Nitama) น้องแมวตัวใหม่ มารับช่วงต่อ ในนามของ ทะมะรุ่นที่ 2 เพื่อรำลึกถึง ทะมะจัง นายสถานีแมวหญิง ที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่นนั่นเอง โดย นิทะมะ จะประจำการ ในเวลา 10.00-16.00 น. ยกเว้น วันพุธ และวันพฤหัสบดี ดังนั้น ใครที่ตั้งใจจะไปตามรอย ต้องเช็ควันกันให้ดีด้วยน้า
นอกจากนายสถานีที่เป็นน้องแมวแล้ว ไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่าง ก็คือ ตัวสถานีคิชิเอง ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นรูปแมวไปด้วย ภายในตกแต่งได้น่ารักมาก ๆ แถมยังมี “ทะมะ คาเฟ่” ที่มาในธีมของ ทะมะจัง ซึ่งจัดเต็มทั้งภาพถ่ายเก่า ๆ, ข้าวของเครื่องใช้ และลวดลายการ์ตูนของทะมะจัง ให้หายคิดถึงกันอีกด้วย วาฬรับรองว่าถูกใจคอกาแฟ และสายคาเฟ่อย่างแน่นอนครับ อ้อ! ในสถานี ยังมีของที่ระลึกที่หาซื้อไม่ได้จากที่อื่น จำหน่ายอีกด้วยนะ ห้ามพลาดเลยครับผม
อีกหนึ่งความไม่เหมือนใคร คือรถไฟที่วิ่งระหว่าง สถานีคิชิ กับ สถานี JR Wakayama ซึ่งใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงนั้น จะเป็น รถไฟขบวนพิเศษ ที่มีการตกแต่งสุดคิ้วท์ ทั้ง 4 ขบวน (แมว บ๊วย สตรอเบอร์รี่ ของเล่น) โดยขบวนน้องแมว “ทะมะ เดนฉะ” (Tama Densha) คือ รถไฟที่ ป๊อปปูล่า และมีคนรอขึ้นมากที่สุดนั่นเอง แต่ละขบวนจะมีตารางเวลา ที่แตกต่างกัน ยังไงทุกคนลองเข้าไปเช็คข้อมูลตามลิ้งค์นี้ก่อนไปด้วยนะครับ (https://www.wakayama-dentetsu.co.jp/en/)
?พิกัด: https://goo.gl/maps/RYadgnJ5U7HTGm2v5
?การเดินทาง:
1. จากสถานี Osaka นั่งรถไฟสาย Osaka Loop Line Kishuji – Rapid Wakayama ลงสถานี Wakayama
2. จากสถานี JR Wakayama นั่งรถไฟสาย Wakayama Electric Railway Kishigawa ไปลงสถานี Kishi
การเที่ยวทั้ง 5 สถานที่ ในเมืองรอง รอบโอซาก้า ในครั้งนี้ สามารถใช้โอซาก้า เป็นศูนย์กลางหลักได้เลยครับ ดังนั้น การบินตรงลงโอซาก้า จึงสะดวกที่สุดฮะ โดยเฉพาะบริการจากสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เส้นทางบิน ระหว่างสนามบินดอนเมือง สู่ สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) จากนั้น ต่อรถไฟจากสนามบินเข้า โอซาก้า อีกแปปเดียวเท่านั้นครับ >> https://www.airasia.com/th/th