TAIWAN: พาเที่ยวหมู่บ้านแมวชื่อดังที่ไต้หวัน "Houtong Cat Village" - วาฬมีปีก

Houtong Cat Village, New Taipei Taiwan
หมู่บ้านแมวโหวต้ง, นิวไทเป ไต้หวัน

?ถึงญี่ปุ่นจะโด่งดังที่สุดเรื่องเกาะแมว แต่เหล่าทาสแมวที่มีเวลาน้อย หรือ ยังไม่พร้อมไปญี่ปุ่น ก็ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะไต้หวันที่อยู่ใกล้เข้ามาหน่อย ก็มี หมู่บ้านแมวเล็ก ๆ ให้เราทดลองไปสัมผัสกันได้แบบสบายกระเป๋า แถมยังน่ารักไม่แพ้กันอีกด้วย รีวิวนี้วาฬจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “หมู่บ้านแมวโหวต้ง” คุยกันเรื่องความแตกต่างจากเกาะแมวของญี่ปุ่น และวิธีการเดินทางเที่ยวเองโดยละเอียดเช่นเคย บอกเลยว่า คนรักแมวไม่ควรพลาดครับผม

หมู่บ้านแมวโหวต้งแห่งนี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองไทเป ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟ TRA เพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้นครับ แต่เดิมเคยเป็นพื้นที่เหมืองถ่านหิน ก่อนที่ในภายหลัง พลังงานจากเชื้อเพลิงอื่นจะเข้ามาทดแทน ทำให้เหมืองถ่านหินทั้งหมดเริ่มค่อย ๆ ซบเซาลง จนถึงขั้นต้องยกเลิกกิจการกันไปในที่สุด (ราวปี พ.ศ. 2533 – 42) ผู้อยู่อาศัยวัยทำงานจึงทยอยย้ายออกเพื่อไปแสวงหาโอกาสยังเมืองใหญ่ ที่เจริญขึ้นพร้อม ๆ กับเส้นทางรถไฟสายใหม่ เหลือไว้เพียงผู้สูงอายุส่วนน้อยเท่านั้น ที่ยังคงปักหลักอยู่ต่อ กลายเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกล่างหุบเขามาจนถึงปัจจุบัน

จากจำนวนคนที่น้อยอยู่แล้ว และต้องมาเจอกับภาวะที่น้องแมวพากันขยายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นมีประชากรมากกว่าคน ชาวบ้านจึงเริ่มดูแลกันไม่ไหว ที่สุดแล้วก็ได้มีองค์กรอาสาสมัครเข้ามาช่วยเหลือ และได้โพสต์ภาพกิจกรรมลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หมู่บ้านโหวต้ง กลายเป็นที่รู้จักในหมู่คนรักแมว ก่อนที่จะได้รับการปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจังในเวลาต่อมานั่นเอง

ต่อไปเรามาดูข้อดี และข้อที่ต้องทำความเข้าใจก่อนไปหมู่บ้านแมวโหวต้งกันบ้าง โดยเทียบกับเกาะแมวที่ญี่ปุ่นเล็กน้อยให้เห็นภาพ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้นนะครับ เริ่มต้นจากข้อดีก่อนเลย มีดังนี้ฮะ

1. การเดินทางที่แสนจะสะดวก มีให้เลือกหลายวิธี ค่าเดินทางไม่แพง และใช้เวลาไม่นานเลยเมื่อเทียบกับการไปเกาะแมวที่ญี่ปุ่น ซึ่งต้องใช้บริการเรือเฟอร์รี่ ที่มีจำนวนรอบต่อวันน้อยมาก ๆ (แถมค่าเรือก็แพงด้วย) ถ้าตัดสินใจไปแล้ว ก็คือหมดไปทั้งวันแน่นอน แต่สำหรับหมู่บ้านแมวโหวต้ง เรายังสามารถไปเที่ยวที่อื่นต่อได้สบาย ยิ่งถ้าเป็น ผิงซี (Pingxi) หรือ จิ่วเฟิ่น (Jiufen) ที่อยู่ในโซนเดียวกัน ก็จะยิ่งเหมาะมาก ๆ

เมื่อลงรถไฟแล้ว จะเจอกับฝั่งเหมืองเก่าก่อน เราต้องข้ามฟากไปยังตัวหมู่บ้าน
โดยผ่านสะพานลอยที่เต็มไปด้วยตัวการ์ตูนน้องแมวน่ารัก ๆ แบบนี้

2. มีรูปปั้นมาสคอต ตลอดจน กราฟฟิตี้ลวดลายแมวน่ารัก ๆ อยู่หลายจุดให้เเวะถ่ายรูปกันจนเพลิน เนื่องจากถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยสมบูรณ์แบบเเล้ว จึงมีการปรับสภาพแวดล้อมให้เป็นกึ่ง ๆ ธีมปาร์คน้องแมวไปเลยนั่นเอง ตรงข้ามกับเกาะแมวของญี่ปุ่น ที่จริง ๆ แล้วเป็นเขตชุมชนพักอาศัยเฉย ๆ ซึ่งเราแทบจะไม่ได้พบเห็นอะไรแบบนี้เลย

3. มีร้านค้าขายของที่ระลึก จุดชมวิวที่สวยงาม นิทรรศการบอกเล่าความเป็นมาของหมู่บ้าน และคาเฟ่ธีมน้องแมว (เเน่นอนว่า หาได้ยากที่ญี่ปุ่นเหมือนกับข้อ 2) เปิดให้บริการ ซึ่งการันตีได้ว่า มีกิจกรรมให้ทำมากกว่าแค่ไปตามหาน้องแมวเฉย ๆ ใครที่ไม่ได้กรี๊ดแมวมาก ก็ยังสามารถไปเที่ยวและรู้สึกเอ็นจอยได้ครับผม

ส่วนข้อจำกัดที่ต้องเผื่อใจ ก็มีตามนี้เลยครับ

1. จำนวนน้องแมวไม่ได้เยอะมาก เท่ากับเกาะแมวดัง ๆ ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะทาชิโระชิมะ (Tashiroshima) และอะโอะชิมะ (Aoshima) ที่วาฬเคยทำรีวิวไปแล้ว ดังนั้นใครเคยไปญี่ปุ่นมาก่อน จะต้องไม่คาดหวังเกินไปนะครับ

2. ไต้หวันฝนตกบ่อย เเละคาดเดาสภาพอากาศได้ยากมาก ๆ ดังนั้น ควรวางแผนเที่ยวหมู่บ้านโหวต้งแบบยืดหยุ่น สามารถสลับวันได้ เพราะหากฝนตก แมวจะไม่ค่อยออกมาให้เราเห็นนั่นเองฮะ ดังนั้นตื่นเช้ามาถ้ารู้ว่าฝนตกแน่ ๆ เปลี่ยนไปที่อื่นก่อน แล้วค่อยกลับมาวันที่ไม่ตกจะดีกว่าครับ

ข้อจำกัดเหล่านี้ วาฬขอไม่เรียกว่าเป็นข้อเสียก็เเล้วกัน เพราะว่าเล็กน้อยมาก และวาฬเชื่อว่าหากเราทำความเข้าใจกับทั้ง 2 ข้ออย่างดีเเล้ว ก็จะช่วยทำให้ไปเที่ยวหมู่บ้านแมวได้สนุกยิ่งขึ้นมาก ๆ เลยครับ

อ้อ ! เกือบลืมข้อเเนะนำสุดท้าย ถ้าเป็นไปได้ควรไปแต่เช้านะครับ เพราะหากมาสายถึงช่วงบ่าย แล้วนักท่องเที่ยวมาก่อนเราเยอะ พวกเขาจะให้อาหารน้องแมวจนพากันอิ่มก่อนเจอกับเรา ส่งผลให้พอเราไปถึง น้อง ๆ ก็จะหนีไปงีบกันหมด ตามธรรมชาติของเค้า หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนอ่ะเนอะ หรือไม่ก็ จะไม่ค่อยขี้อ้อนเหมือนตอนที่หิว ๆ สักเท่าไหร่ ดังนั้นห้ามลืมเลยนะ ไม่เกินเที่ยงกำลังดีครับ